ไมโครเวฟ & เตาอบ
ทำความรู้จักกับไมโครเวฟ และเตาอบ
- ไมโครเวฟ มีขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการใช้ในบ้าน หรือคอนโด โดยลักษณะการทำงานจะให้ความร้อนจากคลื่นไมโครเวฟ เหมาะสำหรับการนำมาอุ่นอาหาร หรือทำอาหารในเมนูที่ไม่มีปรุงรสมากและเป็นวัตถุดิบที่สุกง่าย ส่วนใหญ่มักนำมาใช้กับอาหารพร้อมทาน หรืออุ่นอาหารค้างคืนเสียมากกว่า
- เตาอบ มีหลายขนาดให้คุณได้เลือกใช้ โดยลักษณะการทำงานจะให้ความร้อนจากไฟฟ้า มีหลายระดับความร้อนให้เลือก เหมาะสำหรับการทำอาหารที่มีวัตถุดิบที่สุกยากขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความร้อนสูง สามารถนำมาย่าง ปิ้ง อบ หรือตุ๋น และยังคงรสชาติที่สดใหม่กว่าไมโครเวฟ
ไมโครเวฟและเตาอบ มีกี่ประเภท
- ไมโครเวฟ
1. ไมโครเวฟแบบธรรมดา (Solo Microwave Oven) : จะเป็นเตาไมโครเวฟที่พบเห็นทั่วไป ซึ่งจะนิยมใช้อุ่นอาหารและละลายน้ำแข็งจากอาหาร
2. ไมโครเวฟแบบย่าง (Grill Microwave Oven) : จะมีการติดตั้งขดลวดนำความร้อนบริเวณผนังตัวเครื่องด้านบนและด้านล่าง ที่ช่วยให้นำความร้อนได้ดี สามารถย่างอาหาร อุ่นอาหาร หรืออบขนมได้ในเครื่องเดียวกัน
3. ไมโครเวฟแบบอบลมร้อน (Convection Microwave Oven) : อาจมีราคาที่สูงกว่าไมโครเวฟในรูปแบบอื่น ๆ เนื่องจากตัวเครื่องจะมีพัดลมช่วยเป่าความร้อนให้หมุนเวียนทำให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง
4. ไมโครเวฟแบบอบไอน้ำ (Steam Microwave Oven) : เป็นไมโครเวฟที่ใช้ระบบกึ่งนึ่ง โดยจะใช้ความร้อนแบบอบไอน้ำ อีกทั้งยังทำให้อาหารไม่แห้งจนเกินไป และได้รสชาติอาหารหรือเนื้อสัมผัสที่ดี
- เตาอบ
1. เตาอบไฟฟ้า : นิยมใช้กันทั่วไปตามครัวเรือน คาเฟ่ ที่มีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ซึ่งมีในรูปแบบตั้งโต๊ะ และแบบฝังเคาน์เตอร์ครัว สามารถทำอาหารได้ทั้งของคาวและหวาน
2. เตาอบลมร้อน (Convection Oven) : จะมีพัดลมอยู่ภายในเตาอบ เพื่อช่วยกระจายความร้อนจากขดลวดนำความร้อนให้ทั่วถึงคล้ายกับไมโครเวฟลมร้อน แต่จะทำให้อาหารหรือขนมสุกได้เร็วกว่าเตาอบไฟฟ้า สามารถทำได้ทั้งอาหารคาวและหวานได้เช่นกัน
3. เตาอบขนาดใหญ่ (Deck Oven) : เป็นเตาอบที่มีขนาดใหญ่ แต่ยังคงประหยัดพื้นที่ เพราะมีรูปร่างสูง และให้ความร้อนจากพื้นเตาขึ้นมา เพื่อทำให้อาหารสุกจากด้านล่าง เหมาะสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจเบเกอรีมากกว่า เช่น พิซซ่า ขนมปังสไตล์ยุโรป เค้ก
4. เตาอบคอมบิเนชั่น (Combi Oven) : คือ เตาอบที่สามารถใช้อบและนึ่งในเครื่องเดียวกัน สามารถทำได้ทั้งอาหารคาวและหวาน แต่จะเหมาะสำหรับใช้ในร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม เนื่องจากมีขนาดที่ใหญ่และมีราคาสูงกว่าเตาอบแบบอื่น
คำแนะนำในการเลือกซื้อไมโครเวฟและเตาอบ
- ขนาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งไมโครเวฟและเตาอบ เพื่อช่วยให้เลือกขนาดของไมโครเวฟและเตาอบได้เหมาะสม ที่จะทำให้คุณมีพื้นที่ในการวางวัตถุดิบ วางภาชนะ หรืออุปกรณ์เครื่องครัวได้อีกมายมาย
- ฟังก์ชันการใช้งาน ปัจจุบันไมโครเวฟและเตาอบ มีฟังก์ชันที่สามารถทำได้หลายอย่างภายในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะอบและย่าง อบและนึ่ง หรือแม้แต่แค่อุ่นอาหาร ละลายน้ำแข็ง ดังนั้น ควรพิจารณาจากการใช้งานของตนเองเพื่อเลือกเครื่องที่มีฟังก์ชันครบครันตามที่คุณต้องการ
- กำลังวัตต์ หากคุณทำอาหารเป็นประจำ เป็นเจ้าของธุรกิจอาหารคาวและหวาน ที่ต้องการให้อาหารสุกไว ควรเลือกซื้อไมโครเวฟและเตาอบที่มีกำลังวัตต์มาก เพราะอาจให้ความร้อนสูง
- อุปกรณ์เสริม เช่น ภาชนะใส่อาหารที่ใช้สำหรับไมโครเวฟและเตาอบ ถาดรอง ถุงมือกันร้อน เพื่อความคุ้มค่าของคุณ
- การรับประกัน ในกรณีที่สินค้าเสียหายการมีการรับประกันจากผู้ผลิตจะช่วยให้เรานั้นสามารถส่งซ่อมแซมหรือขอเปลี่ยน-คืนได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เรา ซึ่งระยะเวลาการรับประกันนั้นจะเป็นไปตามที่ผู้ผลิตกำหนด
ดูแลรักษาไมโครเวฟและเตาอบ ให้ใช้งานได้ยาวนาน
- ควรดึงปลั๊กออกหลังการใช้งานทุกครั้งและเปิดประตูเตาอบหรือไมโครเวฟทิ้งไว้หลังจากใช้งาน เพื่อระบายความร้อนจนกว่าเตาอบจะมีอุณหภูมิปกติจึงค่อยปิดเช่นเดิม
- ควรตั้งไมโครเวฟและเตาอบในพื้นที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อับชื้น
- เลือกภาชนะใส่อาหารที่เหมาะสม
- สำหรับไมโครเวฟควรเลือกเป็นภาชนะที่ทำจากเซรามิก พลาสติก แก้ว ถุงอาหาร แต่จะต้องระบุว่าใช้กับไมโครเวฟได้
- สำหรับเตาอบสามารถใช้ภาชนะที่ทำจากโลหะ อะลูมิเนียม แก้ว เซรามิก และแผ่นซิลิโคนทนความร้อน
- การทำความสะอาดไมโครเวฟหลังใช้งาน ควรเริ่มจากรอให้อุณหภูมิภายในเย็นลง และให้คุณนำผ้าปัดกวาดเศษอาหารที่กระเด็นติดตามผนังอยู่ภายในออก หากคราบสกปรกฝังแน่นให้นำน้ำยาล้างจานผสมกับน้ำอุ่นและนำไปเวฟประมาณ 1 นาที เพื่อช่วยให้ไอน้ำระเหยทั่วไมโครเวฟส่งผลให้คราบอ่อนตัวลง จากนั้นนำผ้าขนนุ่มเช็ดตามปกติ
- การทำความสะอาดเตาอบหลังใช้งาน ควรรอให้อุณหภูมิภายในเย็นลง และนำน้ำมะนาวผสมกับเกลือทาลงบริเวณที่เป็นคราบทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที และใช้สก็อตไบรท์ขัดออกเบา ๆ และทำความสะอาดอีกครั้งด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด
- ห้ามใช้ของมีคม เช่น มีด กรรไกร หรือแม้แต่ช้อนส้อม มาขูดภายในเตาอบหรือไมโครเวฟอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายและช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น